Clubhouse คืออะไร?
Clubhouse คือ Social media อีก platform หนึ่ง ซึ่งในที่นี้เป็นแอปที่รวบรวมกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันเข้ามาฟัง หรือพูดคุยกัน โดยไม่เห็นหน้าตากัน การที่จะเข้ามาเล่นนั้นต้องถูกเชิญเท่านั้น (invite) จะถูกเชิญชวนจากใครก็ได้ ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดแล้ว เวลาเราจะเชิญคนอื่นต่อก็ถูกลิมิตไว้เช่นเดียวกัน (อยากให้คงคอนเซ็บแบบเหมือน party house) ตอนนี้ดาวน์โหลดและใช้ได้สำหรับผู้ใช้ iPhone ก่อน ซึ่งแอปนี้เปิดตัวเมื่อปี 2020 โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Alpha Exploration Co.
Clubhouse เล่นยังไง?
คร่าวๆ คือ ทุกห้องจะมี 3 สถานะดังนี้
1) Moderator = ผู้ดูแลห้อง
2) Speaker = ผู้พูด
3) Audience = ผู้ฟัง
(รูป Profile & รูป ห้องสนทนาต่างๆใน Clubhouse)
เราจะเป็นคนกลุ่มไหนก็ได้ อย่างตอนแรกเข้าไปในแอป Clubhouse เราก็เข้าไปหาห้อง/หัวข้อที่เราสนใจ ในที่นี้เราจะ=ผู้ฟัง แล้วถ้าเกิดเราอยากพูดคุยด้วย หรือแสดงความคิดเห็น เรากด ‘ยกมือ’ ได้ (Raise hand) เพื่อให้คนที่เป็น ผู้ดูแล หรือผู้พูดคนอื่นเห็น และเค้าอาจจะดึงเรามาเป็น ผู้พูดอีกคนก้ได้
หรือเราจะเริ่มต้นเป็นคนพูดเลยก็ได้ เป็น moderator (จะมีปุ่มแบบดอกจันสีเขียวอยู่ตรงชื่อเรา) แล้วตั้งเป็นห้อง Private ก่อนก็ได้ เพื่อชวนเพื่อนๆในวง แคบๆ ของตัวเองลองพูดคุยกันก่อน แล้วพอเริ่มชินหรืออยากเปิดเป็นสาธรณะ ค่อยกด open it up to others และที่สำคัญตั้งเพื่อน หรือใครให้เป็นผู้ดูแลห้องอีกก็ได้ เพราะสมมุติว่าคุณเป็นผู้ดูแลห้อง แต่อยู่ๆ จะออกไปนอกแอปนี้ ถ้าไม่ตั้งใครอีกคนเป็นผู้ดูแลห้องแล้ว พอกดออกปั๊ป บทสนทนาในห้องนั้นจะถูกปิดเลย แต่ถ้าตั้งคนอื่นให้ดูแลด้วย เวลาคุณออก ห้องก็ยังเปิดต่อไปได้
Note:ถ้าอยากจะออกจากห้อง Clubhouse ที่ฟังอยู่ ก็กดออกได้เลยตรง Leave quietly นอกจากนี้พวกห้องต่างๆที่ เราฟัง หรือเราเป็นคนพูด/เป็นผู้ดูแลห้อง เราสามารถกดแชร์ให้คนอื่นได้ผ่าน social media ได้ด้วย และถ้าอยากดูหัวข้อที่จะพูดใน event ใหม่ๆ จะสามารถดูได้ ด้านบนขวาตรงรูปปฏิทิน
(รูปห้องสนทนาทีเ่ปิดอยู่บนหน้าฟีด & รูปผู้ดูแลห้อง ผู้พูดในห้องสนทนาต่างๆ)
Clubhouse เหมือน Podcast?
คล้าย podcast คือเน้นฟังแค่เสียง แต่เรารู้สึกว่ามันเหมือนเป็นการแบบ Seminar/Meeting กัน เพราะว่า เวลาคนพูด (Speaker) เนี่ยตอนแรกอาจจะมีคนเดียวหรือ สองคน แต่อยู่ๆ ผู้ฟัง (Audience) คนนึงยกมือ (Raise hand) ก็กลายมาเป็น Speaker อีกคนเลย และการพูด-ฟังพวกนี้มันเป็นแบบ Live-session เป็นแบบ Real-time เลย จะอัดไม่ได้ หรือมี subtitle ขึ้นให้อ่านตามก็ไม่มี เราเลยมองว่ามันเหมือนเป็นการประชุม กับคอมมูนิตี้ของเรา ที่พูดคุยในเรื่องเดียวกัน แลกเปลี่ยนหัวข้อกันแบบสบายๆ ไม่ต้องมีพิธีเยอะ หรือดูแบบทางการขนาดนั้น มันดูแบบคอนเน็คกันได้ง่ายกว่าเดิม
สรุปหลังจากที่ลองเล่น Clubhouse แบบงงๆ รู้สึกว่ามันเจ๋งอยู่นะ จะเข้าไปฟัง/ติดตาม ห้องไหน เรื่องไหนที่ชอบก็ได้ และถ้าอยากคุยด้วย ก็กดยกมือ ถ้าโชคดีมีคนอนุญาต เราก็จะไปเป็น speaker อีกคนได้เลย
แต่เท่าที่ลองตั้งเปิดโนติฟิเคชั่นทั้งวัน รู้สึกว่า ในหน้าเรื่องที่เราสนใจ คนวนเวียนเยอะมากที่เปิดห้อง รู้สึกคอนเทนต์ overload มาก คือมีเยอะไปหมด ละไม่รู้ตอนที่เข้าไป ไม่ได้เข้าตั้งแต่แรก ฟังก็แอบงงๆ ตามไม่ทันอยู่ ละอีกส่วนคือ มีบางห้องอยู่นานมาก ไม่ปิดสักที อาจจะเป็นเพราะมีผู้ดูแลห้องหลายคน พอมีคนนึงออก อีกคนก็เป็นต่อ พอคนนั้นตั้งอีกคน ตัวเองออกก็ยังเปิดอยู่เรื่อยๆ
ที่สำคัญ อาจจะมีทอปปิคประเด็นสำหรับคนที่ไม่รู้จักกันมาเถียงกันได้ หรือถ้าจะพูดหยาบคายกัน ก็คือ ไม่มีคนเข้ามามาห้ามได้ขนาดนั้น ถึงแม้จะมีการปิดเสียงได้ แต่ระบบยังไม่คัดกรองได้ขนาดนั้น เพราะเป็นเวอร์ชั่นแบบทดลองอยู่และเวลาคุยคือแบบ Realtime ไม่สามารถรู้ได้ว่าคนอื่นกำลังจะพูดอะไร
นี่ก็เป็นความคิดคร่าวๆ เท่าที่ลองเล่นมานะคะ อาจจะไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เห็นว่าถ้าใช้ดีๆ ค่อยๆตามเท่าที่ไหว น่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างค่ะ เพราะรู้สึกความ connect ได้ กับคนพูดและคนอื่นๆ และมีกลุ่มต่างๆที่ไว้แลกเปลี่ยนเยอะ อย่างไรแล้วต้องลองเลือกดูนะคะ
หวังว่าทุกคนจะเริ่มได้ “invite” กัน และได้ลองเล่นหรือหาห้องที่สนใจเปิดโลกอีกใบบน Clubhouse นะคะ
รับฟัง Podcast: Clubhouse คืออะไร? ดังขนาดนี้แต่จะอยู่หรือจะไป?
- Spotify : https://spoti.fi/3jShM6P
- Podbean :
- Google Podcast: